กฎหมายมหาชนเพื่อการพัฒนาเมืองอัจฉริยะในจังหวัดขอนแก่น

วันพุธที่ 14 สิงหาคม 2567 ณ ห้องทองใบ ทองเปาด์ คณะนิติศาสตร์ มข. จํานวนผู้เข้าร่วมงาน 440 คน
โดยมีวิทยากร คือ รศ.ดร.ศุภวัฒนากร วงศ์ธนวสุ ผศ.กิตติบดี ใยพูล และคุณเรืองระวี จันทนาม เสวนาในเรื่อง “กฎหมายมหาชนเพื่อการพัฒนาเมืองอัจฉริยะในจังหวัดขอนแก่น”

จังหวัดขอนแก่นยังคงเดินหน้าในการพัฒนาเป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ซึ่งเป็นตัวอย่างสําคัญของ การนํากฎหมายมหาชนมาสนับสนุนการพัฒนาเมืองและท้องถิ่นให้ทันสมัย จากการศึกษาวิจัยเรื่อง เครือข่ายการ เรียนรู้เพื่อพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ซึ่งเป็นการดําเนินงานที่สําคัญและจําเป็นในการขับเคลื่อนการพัฒนาท้องถิ่นด้วย เทคโนโลยีดิจิทัล

เครือข่ายการเรียนรู้นี้เกิดขึ้นจากการวิเคราะห์จุดอ่อนและจุดแข็งของการยกระดับการพัฒนาท้องถิ่น ตั้งแต่ปี 2565 ทําให้เห็นว่าการพัฒนาทางด้านดิจิทัลต้องการกระบวนการที่เหมาะสมกับแต่ละองค์กรอย่าง เฉพาะเจาะจง (Tailor-Made) แทนที่จะใช้วิธีเดียวกันกับทุกองค์กร (One Size-Fits-All) นอกจากนี้ การสร้าง แนวคิดดิจิทัล (Digital Mindset) ในทุกระดับขององค์กรและประชาชนทั่วไป ถือเป็นปัจจัยสําคัญที่นําไปสู่ ความสําเร็จและความยั่งยืนของการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล

การนํากฎหมายมหาชนมาใช้ในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ
การพัฒนาเมืองอัจฉริยะในขอนแก่นได้รับการสนับสนุนจากกฎหมายมหาชนในหลายด้าน โดยเฉพาะการ วางแผนและการจัดการทรัพยากรของเมือง การควบคุมและกํากับดูแลการใช้เทคโนโลยี การบริหารจัดการ สิ่งแวดล้อม รวมถึงการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนและภาคเอกชนในกระบวนการพัฒนา
หนึ่งในตัวอย่างที่เด่นชัดคือ การออกกฎหมายเพื่อสนับสนุนการใช้ระบบขนส่งมวลชนอัจฉริยะ การสร้าง โครงข่ายการคมนาคมที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนในทุกช่วงเวลา ซึ่งกฎหมายมหาชนได้ เข้ามามีบทบาทในการกําหนดมาตรฐานและข้อกําหนดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการและการพัฒนาโครงสร้าง พื้นฐาน

บทบาทของกฎหมายมหาชนในความสําเร็จของโครงการ
ความสําเร็จของการพัฒนาเมืองอัจฉริยะในขอนแก่นไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากไม่มีการบังคับใช้กฎหมาย มหาชนที่มีประสิทธิภาพและครอบคลุม ซึ่งได้มีการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับ เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ การมีกฎหมายมหาชนที่ชัดเจนยังช่วยให้ภาคเอกชนและประชาชนมีความมั่นใจในการลงทุน และเข้าร่วมในโครงการต่างๆ ของเมืองอัจฉริยะ เช่น โครงการพัฒนาพื้นที่สีเขียว การใช้พลังงานทดแทน การ จัดการขยะ และการพัฒนาศูนย์ข้อมูลกลางของเมือง ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาเมืองที่ยั่งยืนและ ทันสมัย

ความท้าทายและอนาคตของการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ
แม้ว่าการพัฒนาเมืองอัจฉริยะในขอนแก่นจะประสบความสําเร็จในระดับหนึ่ง แต่ยังมีความท้าทายที่ต้อง เผชิญ โดยเฉพาะในเรื่องของการปรับปรุงกฎหมายมหาชนให้ทันสมัยและยืดหยุ่นเพียงพอที่จะรองรับการ เปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและสังคมที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว การสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาเมืองกับการรักษา คุณภาพชีวิตของประชาชน การคํานึงถึงผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม และการรักษาความเป็นธรรมในการใช้ ทรัพยากรของเมืองเป็นอีกหนึ่งในประเด็นที่ต้องได้รับการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ

การสร้างเครือข่ายการเรียนรู้เพื่อพัฒนาเมืองอัจฉริยะในขอนแก่นเป็นก้าวสําคัญที่ยืนยันว่ากฎหมาย มหาชนมีบทบาทในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศในยุคดิจิทัล การที่ท้องถิ่นสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีและ พัฒนาความรู้ร่วมกันอย่างเป็นเครือข่าย จะนําไปสู่การพัฒนาท้องถิ่นอย่างยั่งยืน และการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ เป็นรูปธรรมในสังคมไทย

การยกระดับการพัฒนาท้องถิ่นด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลนี้ยังเป็นการส่งเสริมให้เกิดการเปลี่ยนผ่านทางดิจทิัล ที่สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นแบบอย่างในการพัฒนาเมือง อัจฉริยะอื่นๆ ในประเทศไทยต่อไป